การพัฒนาอย่างยั่งยืนในมิติเศรษฐกิจ

Smart Products & Services
“มุ่งมั่นสรรหาผลิตภัณฑ์และสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านบริการ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม”

การกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎหมาย

แนวทางการบริหารจัดการ

         ริษัทฯ ผลักดันให้การกำกับการปฏิบัติตามนโยบายการกำกับดูแลกิจการ จรรยาบรรณทางธุรกิจ ข้อพึงปฏิบัติในการทำงาน และนโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานปกติและยึดถือปฏิบัติทั่วทั้งองค์กร และเพื่อส่งเสริมให้พนักงานทุกคนตระหนักถึงการปฏิบัติงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯ ได้สื่อสารผ่านการอบรมพนักงานใหม่ ช่องทางการสื่อสารภายใน “Share Point” และหน้าเว็บไซต์ของบริษัทฯ

โครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการ บริษัทจดทะเบียนไทยประจำปี 2565

         บริษัทฯ ได้รับผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) ในระดับ “ดีเลิส (5 ดาว)” จากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทยประจำปี 2565 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)

การดำเนินงานและผลการดำเนินงานที่สำคัญในปี 66
การดำเนินงานที่สำคัญในปี 2566ผลการดำเนินงานที่สำคัญในปี 2566
1. อนุมัติเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล โดยกำหนดโครงสร้างของคณะกรรมการด้านบรรษัทภิบาลประกอบด้วยกรรมการอิสระมากกว่าร้อยละ 50 เพื่อการพัฒนาและยกระดับงานด้านความยั่งยืนของบริษัท ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/25661. การเข้าร่วมโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทยประจำปี 2566 (Corporate Governance Report : CGR ) โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับผลการประเมินอยู่ในระดับ “ดีเลิศ” หรือ 5 ดาว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
2. จัดอบรมหลักสูตรจริยธรรมทางธุรกิจและข้อพึงปฏิบัติในการทำงานให้กับพนักงาน2. การประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 โดยได้รับการประเมินผล 100 คะแนนเต็ม อยู่ในเกณฑ์ “ดีเยี่ยมสมควรเป็นตัวอย่าง” ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นปฏิบัติตามหลักธรรมมาภิบาลที่คำนึงถึงสิทธิและความเท่าเทียมของผู้ถือหุ้นทุกกลุ่ม ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายรักษาผลการประเมินการจัดประชุมผู้ถือหุ้นในระดับ “ดีเยี่ยมสมควรเป็นตัวอย่าง” ตลอดไป
3. ร้อยละ 46.00 พนักงานทุกระดับได้รับการอบรมหลักสูตรจริยธรรมทางธุรกิจและข้อพึงปฏิบัติในการทำงาน
4. บริษัทฯ ไม่มีข้อร้องเรียนหรือข้อพิพาทในเรื่องจรรยาบรรณธุรกิจ
โครงสร้างคณะกรรมการบริษัท

         บริษัทฯ มีคณะกรรมการบริษัทจำนวน 10 ท่าน ประกอบด้วยกรรมการที่เป็นผู้บริทารจำนวน 2 ท่าน กรรมการที่เป็นอิสระจำนวน 4 ท่าน และกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหารจำนวน 8 ท่าน

การดำรงตำแหน่งเฉลี่ยของคณะกรรมการ
จำนวนและรายชื่อคณะกรรมการตำแหน่งวันที่เข้าดำรงตำแหน่งคณะกรรมการจำนวนปี (วันเข้าดำรงตำแหน่งถึง 31 ธ.ค. 2566)
1นาย อภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจรประธานกรรมการบริษัท / กรรมการที่มีอำนาจลงนามแทนบริษัท26 ก.พ. 255115
2นาย วิทูร สุริยวนากุลกรรมการบริษัท / กรรมการบริหาร / กรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน / ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร / กรรมการที่มีอำนาจลงนามแทนบริษัท4 เม.ย. 2551 – มี.ค. 2559 & 10 พ.ค. 256014
3นาย เกรียงไกร สุริยวนากุลกรรมการบริษัท / กรรมการบริหาร /กรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล / รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร / กรรมการที่มีอำนาจลงนามแทนบริษัท30 ต.ค. 25642
4นาย นิธิ ภัทรโชคกรรมการบริษัท23 พ.ย. 255512
5นาย ปรเมศวร์ นิสากรเสนกรรมการบริษัท / กรรมการที่มีอำนาจลงนามแทนบริษัท9 พ.ย. 25615
6นาย วิโรจน์ รัตนชัยสิทธิ์กรรมการบริษัท / กรรมการบริหาร23 พ.ย. 25651
7นาย ไพโรจน์ เจือประทุมกรรมการบริษัท / กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการตรวจสอบและบริหารความเสี่ยง23 เม.ย. 25624
8ดร.บุญชัย พิทักษ์ดำรงกิจ​กรรมการบริษัท / กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล / กรรมการตรวจสอบและบริหารความเสี่ยง23 เม.ย. 25624
9ดร.วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์​​กรรมการบริษัท / กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบและบริหารความเสี่ยง / กรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน11 พ.ค. 25597
10พลตำรวจเอก กวี สุภานันท์​​​กรรมการบริษัท / กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน / กรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล23 เม.ย. 25624
ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งเฉลี่ยของคณะกรรมการ (ปี)6.70
ตารางการเข้าประชุมของคณะกรรมการบริษัท ปี 2566

หมายเหตุ:

1. *กรรมการที่ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ เนื่องจากภาระกิจด่วน โดยกรรมการที่ไม่เข้าร่วมประชุมได้แจ้งต่อประธานกรรมการทราบล่วงหน้าก่อนวันประชุมเพื่อแจ้งต่อที่ประชุมแล้ว

ตัวชี้วัดประสิทธิภาพและผลการดำเนินงานที่สำคัญของ CEO และผู้บริหาร (Performance and key performance indicators of CEO and executives)

         บริษัทประเมินการปฏิบัติงานของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหาร เป็นประจำทุกปี โดยใช้ดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพการปฏิบัติงานครอบคลุมตัวบ่งชี้ ด้านผลตอบแทนทางการเงิน ตัวชี้วัดทางการเงินที่สัมพันธ์กันเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน และตัวชี้วัดที่ไม่ใช่ทางการเงิน  

          ทั้งนี้ บริษัทจะประเมินผลการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับ5-นโยบายหลัก และ5-วัฒนธรรมองค์กร เพื่อการเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป โดยมีรายละเอียดตัวชี้วัด ดังนี้

ดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพองค์กรประจำปี 2566
ประสิทธิภาพตัวชี้วัด
ด้านการเงิน• รายได้รวม
• กำไรสุทธิ
• อัตรากำไรขั้นต้น
• ตัวชี้วัดทางการเงินอื่นๆ สำหรับผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE)
• การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม
ด้านการพัฒนาธุรกิจ• การเปิดสาขาใหม่ และ / หรือ การขยายธุรกิจใหม่
• การปรับปรุงสาขาเดิม
ด้านลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสีย• ความพึงพอใจของลูกค้า
• ฐานของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ในแต่ละช่องทางการจำหน่ายสินค้า
ด้านนวัตกรรม• การเพิ่มดิจิทัลสโตร์
• รายการสินค้าที่ลูกค้ารับผ่านตู้ Click & Collect
ด้านความยั่งยืน(ESG)• ผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน
• การอยู่ในดัชนีหุ้นยั่งยืน (THIS Index2022)
• การพัฒนาผลการประเมิน CSA 2022
• ผลการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน (CGR)
1. การบริหารความเสี่ยงและภาวะวิกฤต

         บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงเป็นส่วนหนึ่งของการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยมีคณะกรรมการตรวจสอบและบริหารความเสี่ยงทำหน้าที่สอบทานความเหมาะสม และประสิทธิภาพของการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้มั่นใจว่าการควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยงมีประสิทธิภาพอย่างเพียงพอและรายงานต่อคณะกรรมการบริษัท ตลอดจนหาแนวทางแก้ไขที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านการบริหารความเสี่ยงให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น

ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่ (Emerging Risks)
ความเสี่ยง/ประเด็นความเสี่ยงผลกระทบต่อธุรกิจมาตรการและแนวทางจัดการ
ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีดิจิทัล
1การดำเนินธุรกิจ• ทำให้การทำธุรกิจสะดวกมากยิ่งขึ้น
• บริษัทสามารถติดต่อสื่อสารกับผู้จำหน่ายและลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
• การเลือกซื้อสินค้าและบริการได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว
• พัฒนาระบบซื้อขายออนไลน์บน Marketplace
• การพัฒนาระบบเชื่อมต่อ OR VISA MASTERCARD
• พัฒนาแอปพลิเคชัน Click & Collect ในการเชื่อมต่อข้อมูลหน้าร้านและช่องทางออนไลน์
ความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์
1การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนได้เสีย ได้แก่ ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน• บริษัทต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับลูกค้า พนักงาน ที่เป็นผู้เสียหาย
• บริษัทอาจต้องจ่ายค่าปรับในกรณีของการฝ่าฝืนกฎหมาย (พ.ศ. 2562)
• การสูญเสียชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสีย
• อบรมให้ความรู้แก่พนักงาน
• กำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน
• กำหนดนโยบายและบทลงโทษที่ชัดเจน
2การรั่วไหลข้อมูลสำคัญของบริษัท เช่น ข้อมูลทางการค้า ข้อมูลทางการเงิน• ทำให้การดำเนินงานไม่เป็นไปตามแผนงาน หรือเป้าหมายที่กำหนด เช่น รายได้ หรือ กำไร ที่ลดลง หรืออาจส่งผลต่อต้นทุนดำเนินงานเพิ่มขึ้น• พัฒนาระบบ e-Tax ทำให้การออกเอกสารภาษีเต็มรูปแบบอย่างปลอดภัย
• ตรวจสอบหาช่องโหว่ของระบบอย่างเป็นประจำ
3การถูกโจมตีจากโปรแกรมไม่พึงประสงค์• ทำให้ข้อมูลสำคัญของบริษัทถูกขโมย
• ทำให้ข้อมูลที่สำคัญสูญหาย
• ทำให้ระบบโปรแกรมต่างๆ ทำงานช้าลง
• เสี่ยงต่อการถูกเรียกค่าไถ่ข้อมูล
• จัดทำแผนรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินและทำการทดสอบการกู้คืนข้อมูล
• จัดทำแผนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
• จัดตั้งหน่วยงานกู้คืนข้อมูลเมื่อถูกคุกคามทางไซเบอร์
• ควบคุมการเข้าถึงและใช้งานระบบสารสนเทศ
• ควบคุมการใช้สิทธิ์ ในการติดตั้งโปรแกรมไม่พึงประสงค์
4การถูกโจมตีจากเว็บแอพพลิเคชั่น• ทำให้ข้อมูลภายในเกิดการรั่วไหล• ควบคุมการเข้าถึงและใช้งานระบบสารสนเทศ
• การอัพเดตและการทดสอบเป็นประจำ
5การถูกโจมตีเพื่อขัดขวางการทำงานของระบบ• ทำให้โปรแกรมไม่สามารถใช้งานได้
• ทำให้ OS ระบบ Server ทำงานไม่ถูกต้อง
• ทำให้ธุรกรรมต่างๆ ของบริษัทไม่สามารถดำเนินต่อไปได้
• ออกแบบและพัฒนาโปรแกรมบน sandbox เท่านั้น
• ทำการสำรองข้อมูล
• ติดตั้งแอนดี้ไวรัสสแกนและอัพเดตเป็นประจำ
• ใช้งานระบบ Cloud Server ที่ปลอดภัย
6การเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ไม่ปลอดภัย• เสี่ยงต่อการติด Virus
• ข้อมูลอาจสูญหาย
• เสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมข้อมูลที่สำคัญ
• ใช้อุปกรณ์เครือข่ายที่สามารถจำกัดสิทธิ์การเข้าถึง สำหรับอุปกรณ์ที่ไม่ได้รับอนุญาต
• ใช้การเชื่อมต่อ SSL ในการเข้าใช้งานเว็บไซต์
7การได้รับสแปมเมล์• เสี่ยงต่อการติด Virus เพราะมีไฟล์แนบอีเมล์เข้ามาจากผู้ไม่หวังดีหรือเป็นโปรแกรมเรียกค่าไถ่
• มีอีเมล์ที่ถูกส่งจากโดเมนของเรา (เว็บไซต์ของคุณเอง) โดยมี username แปลกๆ ไปยังคนอื่นๆ เป็นจำนวนมาก
• ควบคุมการเข้าถึงและใช้งานระบบสารสนเทศ
• เพิ่มตัวกรองอีเมล์
• กำหนด backlist อีเมล์
ความเสี่ยงด้านสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
1ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ย• ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้นกระทบต่อผลการดำเนินงานในภาพรวม
• ยอดขายลดลง
• ติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้น
• การรักษาสภาพคล่องทางการเงิน
• ปรับรูปแบบของสินค้าให้เหมาะสมตรงตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่
ความเสี่ยงจากการปรับตัวเข้าสู่สังคมแห่งคาร์บอนต่ำ
1การดำเนินธุรกิจ• ยอดขายลดลง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงการใช้สินค้าของผู้บริโภค ที่หันมาใส่ใจสินค้าที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม• เพิ่มกลุ่มสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือสินค้า ESG โดยกำหนดเป้าหมายจำหน่ายสินค้าดังกล่าวให้ได้ร้อยละ 40 ต่อรายได้จากการขายทั้งหมดภายในปี2568
• ติดตามเทรนด์สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างใกล้ชิด เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันที
2. จรรยาบรรณทางธุรกิจและข้อพึงปฏิบัติในการทำงาน

         บริษัทมุ่งดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม โดยได้มีการทบทวนและจัดทำคู่มือจรรยาบรรณทางธุรกิจและข้อพึงปฏิบัติในการทำงาน สำหรับพนักงานทุกระดับ ตั้งแต่ผู้บริหารจนถึงพนักงาน ตลอดจนสำหรับคู่ค้าและผู้รับเหมา เพื่อยึดถือเป็นแนวปฏิบัติในการทำงานด้วยความรับผิดชอบและซื่อสัตย์สุจริต รวมถึงการไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชัน การไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ในปี 2565 พนักงานได้รับการสื่อสารนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน และจรรยาบรรณทางธุรกิจและข้อพึงปฏิบัติในการทำงาน จำนวน 2,107 ราย 

การสื่อสาร ให้ความรู้ และสร้างความตระหนัก
          บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่สนับสนุนหรือยอมรับการคอร์รัปชันทุกรูปแบบทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนั้นบริษัทฯ จึงได้มีการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันให้กับกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับอย่างต่อเนื่อง เผยแพร่นโยบายต่อต้านคอร์รัปชันให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มรับทราบ ผ่านช่องทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ ช่องทางการสื่อสารภายใน “Share Point” บอร์ดประชาสัมพันธ์ทุกสาขา
           ในปี 2566 พนักงานได้รับการสื่อสารนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน และจรรยาบรรณทางธุรกิจและข้อพึงปฏิบัติในการทำงาน จำนวน 5,051 ราย

การบริหารจัดการเรื่องร้องเรียน และการบริหารจัดการกรณีทุจริต

         บริษัทได้จัดทำช่องทางการแจ้งเรื่องร้องเรียน เพื่อเป็นการสนับสนุนการรับข้อร้องเรียนหรือเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือพฤติกรรมที่ผิดจริยธรรมภายในองค์กร ผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

ช่องทางการแจ้งเบาะแสช่องทางการแจ้งเบาะแสผู้รับเรื่อง
จดหมายธรรมดา232 หมู่ 19 ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด 45000สำนักงานตรวจสอบ
จดหมายอิเล็กทรอนิกส์[email protected]เลขานุการบริษัท
เว็บไซต์บริษัทhttps://globalhousenews.com/whistleblower-with-complaints/เลขานุการบริษัท
โทรศัพท์Call Center 1160เลขานุการบริษัท
รายงานการแจ้งเบาะแส
รายงานการแจ้งเบาะแส25642565
การฝ่าฝืนการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี จรรยาบรรณทางธุรกิจ และข้อพึงปฏิบัติในการทำงานไม่มีไม่มี
การฝ่าฝืนกฎระเบียบ ข้อบังคับของบริษัทฯไม่มีไม่มี
การกระทำการทุจริตคอร์รัปชันไม่มีไม่มี
การกระทำผิดกฎหมายไม่มีไม่มี
การละเมิดสิทธิมนุษยชนและการได้รับความไม่เป็นธรรมในการปฏิบัติงานไม่มีไม่มี
การเลือกปฏิบัติหรือการคุกคามไม่มีไม่มี
ผลประโยชน์ทับซ้อนไม่มีไม่มี
การฟอกเงินและการแลกเปลี่ยนข้อมูลภายในที่สร้างผลกระทบต่อภายนอกไม่มีไม่มี
การสื่อสาร ให้ความรู้ และสร้างความตระหนัก

         บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่สนับสนุนหรือยอมรับการคอร์รัปชันทุกรูปแบบทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนั้นบริษัทฯ จึงได้มีการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันให้กับกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับอย่างต่อเนื่อง เผยแพร่นโยบายต่อต้านคอร์รัปชันให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มรับทราบ ผ่านช่องทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ ช่องทางการสื่อสารภายใน “Share Point” บอร์ดประชาสัมพันธ์ทุกสาขา

3. การบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และข้อมูล

         บริษัทฯ ได้จัดทำนโยบายการรักษาความปลอดภัยด้านเทคโนโลยี เพื่อกำหนดหลักการและข้อบังคับในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยของเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมทั้งมุ่งสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และข้อมูลที่สำคัญของบริษัทฯรวมถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความเสี่ยงของบริษัทฯ

การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

         บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญด้านการเคารพสิทธิในความเป็นส่วนบุคคลและการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า พนักงาน บริษัทฯ จึงได้กำหนดนโยบายคุ้มคอรงข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) เพื่อแจ้งให้ทราบถึงนโยบายความเป็นส่วนตัว รายละเอียดการรวบรวมข้อมูล การใช้หรือเปิดเผย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (Personal DataProtection Act : PDPA) รวมถึงกำหนดระเบียบปฏิบัติ ในการดำเนินงานของบริษัทฯด้วยมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า และพนักงาน จะถูกเก็บไว้เป็นความลับ ทั้งนี้หากบริษัทฯจะนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ จะต้องได้รับความยินยอมก่อน และนำไปใช้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยในปี 2565 บริษัทฯ ได้ดำเนินงานยกระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

  • ประกาศใช้กระบวนการทำงานที่มีความสอดคล้องกับกฎหมาย PDPA
  • แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
  • เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย PDPA ให้กับพนักงานทุกระดับ
  • เข้าร่วมฝึกอบรมหลักสูตร เจาะลึกการประยุกต์ใช้ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หลักสูตร Inhouse Training อบรมผ่านออนไลน์ โดยมีผู้บริหารและพนักงานเข้าร่วมอบรม จำนวน 31 ราย
สถิติความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อร้องเรียนด้านการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล256425652566
จำนวนข้อร้องเรียนด้านการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล - ลูกค้า0.00.00.0
จำนวนข้อร้องเรียนด้านการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล - คู่ค้า0.00.00.0
จำนวนข้อร้องเรียนด้านการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล - พนักงาน0.00.00.0

นวัตกรรมและเทคโนโลยี

         บริษัทฯ มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจให้ทันสมัย โดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนนำไปสู่การพัฒนาธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ

แนวทางการบริหารจัดการ

         บริษัทฯ กำหนดนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านบริการ รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อพัฒนาบริการให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในธุรกิจ

1. โครงการพัฒนาและปรับปรุงระบบซื้อขายออนไลน์บนแอพพลิเคชั่น Click & Collect

         เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและเพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อสินค้า อีกทั้งยังมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป 

2. โครงการพัฒนาจุดรับชำระเงิน Self-Check Out

         จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด 19 ทำให้พฤติกรรมของลูกค้าและการใช้ชีวิตในสังคมเปลี่ยนแปลงไป ต้องมีการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค และการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้บริษัทเล็งเห็นความสำคัญในการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ให้เกิดการบริการที่รวดเร็ว โดยบริษัทได้นำระบบบริการชำระเงินด้วยตนเอง (Self Service) เข้ามาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับร้านเพิ่มความรวดเร็ว และให้การบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าในไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป 

3. โครงการพัฒนา Digital OR Solutions ร่วมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา

         บริษัทฯ ได้มีการพัฒนา Digital OR Solution ร่วมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพื่อยกระดับมาตรฐานการชำระเงินที่ช่องทางจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ ทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์ให้ลูกค้ารายย่อยและผู้ประกอบการธุรกิจที่มาซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ที่บริษัทฯ ให้ได้รับความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัยในการชำระเงินมากยิ่งขึ้น โดยได้พัฒนาโซลูชั่นการชำระเงินให้สอดคล้องและครอบคลุมความต้องการในทุกรูปแบบ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม

สินค้าและบริการที่มีคุณภาพ

แนวทางการบริหารจัดการ

         บริษัทฯ มุ่งมั่นสรรหาสินค้าและพัฒนาบริการให้มีมาตรฐาน มีคุณภาพ ในราคาที่ยอมรับได้ ภายใต้การเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการใช้ชีวิต อาทิ วิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ที่ตระหนักถึงความปลอดภัยมากขึ้น พฤติกรรมการซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น กระแสการใช้สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพบริการจัดส่งและติดตั้งสินค้าภายในวัน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

         บริษัทฯ มุ่งมั่นสรรหาและสนับสนุนการจำหน่ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยความใส่ใจในผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการบริโภคอย่างรับผิดชอบให้กับลูกค้า โดยแบ่งสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้

  • ESG 1 กลุ่มประหยัดพลังงาน กลุ่มลดโลกร้อน กลุ่มประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ
  • ESG 2 กลุ่มส่งเสริมสุขภาพ
  • ESG 3 กลุ่มสินค้าเพื่อผู้สูงอายุและผู้พิการ
  • ESG 4 กลุ่มสินค้าเพื่อตอบสนองวิถีชีวิตใหม่ (New Normal)

ผลการดำเนินงาน

2566
สัดส่วนรายได้จากการขายสินค้ากลุ่ม ESG ต่อรายได้จากการขายทั้งหมด33.73%

การบริหารที่มีคุณภาพ

1. ระบบซื้อขายออนไลน์แบบไร้รอยต่อ (Omni Channel)

         ปัจจุบันการดำเนินชีวิตและความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ทำให้ลูกค้ามีการใช้ช่องทางการซื้อสินค้าทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น บริษัทฯ จึงได้พัฒนาระบบการสั่งซื้อสินค้าและการบริการแบบไร้รอยต่อ (Omni Channel) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการเลือกซื้อสินค้าทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อตอบสนองสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า อีกทั้งยังมีบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน หรือการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และเลือกรับสินค้าได้ด้วยตนเองที่สาขาใกล้เคียง (Click & Collect) โดยลูกค้าสามารถทำการซื้อสินค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สาขาออนไลน์ แอพพลิเคชั่นทางโทรศัพท์ ศูนย์บริการลูกค้า 1160 และเว็บไซต์บริษัท

2. บริการจัดส่งสินค้า

         บริษัทฯ ได้พัฒนาระบบการจองคิวจัดส่งสินค้าแบบออนไลน์ ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกวันและเวลาการจัดส่งสินค้าได้ตามความต้องการ รวมทั้งในปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้เพิ่มประสิทธิภาพความรวดเร็วของบริการจัดส่งสินค้าภายในวันที่ซื้อสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า จึงได้มีการเปิดตัวบริการจัดส่งสินค้าด่วนภายในวันเดียวกัน (Same Day Delivery) ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าที่อยู่ในรัศมีไม่เกิน 40 กม. เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องกรองน้ำ เครื่องซักผ้า ปั๊มน้ำ เตาแก๊ส เครื่องดูดควัน เฟอร์นิเจอร์ กระเบื้อง เมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้าหรือบริการก่อนเวลา 16.00 น. บริษัทฯจะดำเนินการจัดส่งสินค้า ภายในเวลาไม่เกิน 19.00 น. ในวันเดียวกัน นอกจากบริการจัดส่งภายในวันแล้ว ยังมีการรับประกันสินค้าชำรุดเสียหายระหว่างการขนส่ง ก่อนที่จะส่งมอบให้กับลูกค้า

3. โครงการรถร่วม (พนักงาน)

         จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด – 19 ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้มีปริมาณสินค้าที่ต้องจัดส่งให้ลูกค้ามากขึ้น ส่งผลให้บริษัทไม่สามารถจัดส่งสินค้าได้ทันตามกำหนด เพื่อพัฒนาระดับความพึงพอใจของลูกค้าในด้านบริการ บริษัทฯ จึงได้ปรับปรุงบริการจัดส่งสินค้าให้รวมเร็วตามความต้องการของลูกค้าจึงได้จัดทำโครงการ “โครงการรถร่วมพนักงาน” โดยเปิดโอกาสให้พนักงานนำรถยนต์ส่วนตัวมาร่วมจัดส่งสินค้าสำหรับลูกค้าที่มีความต้องการจัดส่งสินค้าภายในวัน นอกจากนี้ ยังได้พัฒนา Mobile Application เพื่อให้แผนกขายสามารถจองคิวจัดส่งสินค้า ให้ลูกค้าได้ทันที

4. บริการติดตั้งสินค้า

         บริษัทฯ มีบริการติดตั้งสินค้า เพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มสุขภัณฑ์ กลุ่มเครื่องกรองน้ำ กลุ่มถังน้ำและปั๊มน้ำ กลุ่มเครื่องครัวสำเร็จรูป กลุ่มรางน้ำฝน ระบบไฟฟ้า และโรงจอดรถเป็นต้น พร้อมทั้งรับประกันคุณภาพงานติดตั้งสูงสุด 180 วัน และบริษัทฯได้เพิ่มประสิทธิภาพความรวดเร็วของงานติดตั้งสินค้าภายในวัน เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าก่อนเวลา 14.00 น. เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า

การบริหารความสัมพันธ์และความรับผิดชอบต่อลูกค้า

         บริษัทฯ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นธรรม คำนึงถึงความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า โดยบริษัทฯ ได้กำหนดให้พนักงานต้องให้ข้อมูลของสินค้าและบริการตามจริงและไม่ปกปิดข้อมูลสำคัญที่จะนำไปสู่ความเข้าใจผิดซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของลูกค้า

1. ความรับผิดชอบที่มีต่อลูกค้า
  • บริการก่อนการขาย บริษัทฯ ยึดมั่นในการตลาดที่เป็นธรรมโดยกำหนดให้พนักงานต้องให้ข้อมูลของสินค้าและบริการตามจริงและไม่ปกปิดข้อมูลสำคัญที่จะนำไปสู่ความเข้าใจผิดซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของลูกค้า พนักงานต้องให้คำแนะนำการใช้งานของสินค้าและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานพร้อมทั้งวิธีการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นแก่ลูกค้า
  • บริการหลังการขาย บริการจัดส่งสินค้าและบริการติดตั้ง (INSTALLATION SERVICE) สินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบไฟ กระเบื้องปูพื้น ประตู หน้าต่าง ไม้พื้น ลามิเนต ถังน้ำ ปั๊มน้ำ รางน้ำ เครื่องครัว สุขภัณฑ์ และงานทาสี ตามเงื่อนไขของบริษัทฯ รวมถึงการรับประกันหลังงานติดตั้ง
  • บริการซ่อมสินค้าสำหรับสินค้า HOUSE BRAND จะดำเนินการซ่อมให้ตามเงื่อนไขที่กำหนดและสำหรับสินค้าที่มีเจ้าของผลิตภัณฑ์บริษัทฯ จะเป็นผู้ประสานงานนำส่งให้กับเจ้าของผลิตภัณฑ์ พร้อมกับติดตามการซ่อมสินค้าจนแล้วเสร็จ
  • บริการรับคืนสินค้า บริษัทฯ กำหนดนโยบายให้มีการรับคืนสินค้าภายหลังการขาย โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน นับจากวันที่ลูกค้าซื้อสินค้า
2. ความพึงพอใจของลูกค้า

         บริษัทฯ มีการกำหนดกระบวนการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้ารวมทั้งกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของลูกค้าเพื่อนำผลที่ได้มาพัฒนาปรับปรุงสินค้าและการบริการตลอดจนการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความประทับใจ และสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยให้ความสำคัญต่อสินค้าและการบริการที่มีคุณภาพ ควบคู่ไปกับความพร้อมของพนักงาน “GBH Smart People”ภายใต้นโยบายหลักด้านคุณภาพ 5 ประการ ดังนี้

การบริหารห่วงโซ่อุปทาน

1. จรรยาบรรณและแนวทางปฏิบัติของคู่ค้า (Supplier Code of Conduct)

         บริษัทฯ ได้กำหนดจรรยาบรรณและแนวทางปฏิบัติของคู่ค้า เพื่อให้คู่ค้า และผู้ผลิต มีแนวทางปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามแนวทางการบริหารของบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มอบหมายให้คณะกรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการทบทวนและปรับปรุง และแนวทางปฏิบัติของคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง ให้เหมาะสมกับความเปลี่ยนแปลงของการดำเนินธุรกิจ ครอบคลุมประเด็นสิทธิมนุษยชนและแรงงาน ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม และจริยธรรมและการปฏิบัติตามกฎหมาย

2. เกณฑ์การคัดเลือกคู่ค้า Supplier screening criteria

         การจัดหาเป็นกระบวนการสำคัญเพื่อกำหนดค่าใช้จ่ายและคุณภาพสินค้าและบริการ ที่บริษัทฯ จะนำมาใช้ในการดำเนินกิจการ จึงจำเป็นต้องมีขั้นตอนดำเนินการที่ให้ประโยชน์สูงสุดแก่บริษัท ด้วยความเป็นธรรม สมเหตุสมผล โปร่งใส สามารถตรวจสอบและอธิบายได้ นอกจากนี้ยังต้องให้ความสำคัญกับคู่ค้าที่เอื้อประโยชน์ต่อกัน และเสริมสร้าง สัมพันธภาพในการทำงานที่ดีกับคู่ค้าบนพื้นฐานของการให้เกียรติและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน

         บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อการคัดเลือกคู่ค้าที่เหมาะสม โดยจะต้องมั่นใจว่ากระบวนการคัดเลือกและการปฏิบัติต่อคู่ค้าเป็นไปอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ พร้อมทั้งสนับสนุนการทำธุรกิจ กับคู่ค้า บริษัทผู้ผลิต และผู้รับเหมา (“คู่ค้า”) ที่ดำเนินการอย่างเป็นธรรม ไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน และตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม และเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือก     ที่ครอบคลุมมิติเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม(ESG) ดังนี้

  • มีประวัติทางการเงินที่เชื่อถือได้และมีศักยภาพ ที่จะเติบโตไปพร้อมกับบริษัทฯได้ในระยะยาว
  • มีกระบวนการผลิตที่คำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม ตามข้อกำหนดตามกฎหมาย อาทิ การไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน การไม่ใช้แรงงานผิดกฎหมาย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
  • ผลิตหรือจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพ และสามารถตรวจสอบคุณภาพได้
  • สามารถจัดส่งสินค้าได้ในปริมาณและเวลาตามที่ตกลง
  • ให้การสนับสนุนด้านการส่งเสริมการขายและการให้บริการหลังการขายแก่ลูกค้า
  • การให้ความร่วมมือกับบริษัทฯในเรื่องตัวอย่างสินค้า ใบเสนอราคา หรือ ข้อมูลอื่นๆ เช่น การปฏิบัติตามจรรยาบรรณธุรกิจสำหรับคู่ค้า (Supplier Code of Conduct) ซึ่งครอบคลุมถึงจริยธรรมทางธุรกิจ แรงงานและสิทธิมนุษยชน อาชีวอนามัยและความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และ กฎหมายและข้อกำหนด
3. การประเมินความเสี่ยงของคู่ค้า

         บริษัทฯ มีการวิเคราะห์ข้อมูลการซื้อขายของคู่ค้า โดยพิจารณาจากข้อมูลที่จำเป็น เช่น จำนวนคู่ค้า กลุ่มสินค้าที่สั่งซื้อมูลค่าการสั่งซื้อและแหล่งที่อยู่ของคู่ค้าเพื่อนำไปวิเคราะห์กระบวนการทำงานและบริหารความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน

เป้าหมายการจัดการห่วงโซ่อุปทาน
กลยุทธ์ห่วงโซ่อุปทานเป้าหมายปีเป้าหมาย
จรรยาบรรณของคู่ค้าแจ้งให้ทราบ100%2564
รับทราบ80%2564
อบรม70%2568
การประเมินความเสี่ยงการประเมินความเสี่ยงด้าน ESG90%2565
ความยั่งยืนการอบรมพนักงาน-เรื่องห่วงโซ่อุปทานและความยั่งยืน100%2568
การอบรมคู่ค้า-เรื่องห่วงโซ่อุปทานและความยั่งยืน70%2568
ข้อมูลการซื้อของคู่ค้า
แหล่งที่มาของสินค้าจำนวน (ราย)อัตรา (ร้อยละ)
ประเทศไทย68277.94
ต่างประเทศ19322.06
รายละเอียดเกี่ยวกับคู่ค้าหลัก
ประเภทคู่ค้าจำนวน (ราย)อัตรา (ร้อยละ)
Significant Supplier384.34
Non-Significant Supplier83795.66
มาตรการดำเนินการ กรณีคู่ค้าไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด

เจรจาแก้ไขปัญหาโดยมีการกำหนดขอบเขตปัญหาและระยะเวลาที่ชัดเจน

  • การตักเตือนด้วยวาจาและลายลักษณ์อักษร
  • การบอกเลิกสัญญาการค้า
  • การเรียกร้องค่าเสียหาย
4. การกำกับดูแลและการตรวจประเมินคู่ค้า

         บริษัทฯ ได้จัดทำคู่มือแนวทางการปฏิบัติของคู่ค้า เพื่อให้คู่ค้านำไปเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ และได้จัดให้มีการประเมินตนเองด้านความยั่งยืนของคู่ค้า โดยแบบประเมินได้ครอบคลุมประเด็นที่ครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social, Governance : ESG) โดยให้คู่ค้าทำการประเมินตนเองผ่านระบบ GLOBAL SOFT เป็นประจำทุกปี รวมถึงได้กำหนดให้ฝ่ายจัดซื้อต้องดำเนินการตรวจเยี่ยมคู่ค้า ณ สถานประกอบการ (ON SITE AUDIT) เป็นประจำทุกปี เพื่อตรวจสอบคุณภาพและการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของคู่ค้า

ผลการดำเนินงานในปี 2565
  • การตรวจประเมินคู่ค้า(ON SITE AUDIT) : บริษัทฯดำเนินการตรวจสอบและประเมินคู่ค้าในด้านคุณภาพและด้านความยั่งยืน (ON SITE ESG AUDIT) โดยเป็นการลงพื้นที่ตรวจประเมินยังสถานประกอบการของคู่ค้า เพื่อตรวจสอบคุณภาพของสินค้าและการปฏิบัติตามแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนรวมถึงข้อกำหนดตามจรรยาบรรณของคู่ค้าและแนวปฏิบัติของคู่ค้า(SUPPLIER CODE OF CONDUCT) โดยปี2565 ได้เข้าตรวจกลุ่มคู่ค้าหลัก (CRITICAL SUPPLIERS) จำนวน 6 ราย และคู่ค้ารอง (NON CRITICAL SUPPLIERS) จำนวน 3 ราย พบว่าคู่ค้าทั้ง 9 ราย มีการปฏิบัติตามแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจ มิติสังคม และมิติสิ่งแวดล้อม รวมถึงไม่พบการปฏิบัติที่ฝ่าฝืนจรรยาบรรณของคู่ค้าและแนวปฏิบัติของคู่ค้า
  • การประเมินตนเองด้านความยั่งยืนของคู่ค้า : บริษัทฯได้จัดทำแบบประเมินตนเองด้านความยั่งยืนของคู่ค้าโดยกำหนดให้คู่ค้าภายในประเทศต้องทำแบบประเมินผ่านระบบGLOBAL SOFT โดยปี 2565 มีคู่ค้าในประเทศจำนวน 482 ราย ได้ตอบแบบประเมินตนเองจากคู่ค้าในประเทศทั้งหมด 596 ราย หรือ คิดเป็น 80.87%
5. นโยบายการกำหนดเวลาการให้สินเชื่อทางการค้า (Credit Term)

         บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อสภาพคล่องและการบริหารการจัดการเงินสด โดยทำการกำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนระยะเวลา Credit Term สำหรับคู่ค้า ภายในระยะเวลา 7 – 180 วัน ซึ่งทำการพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ระยะเวลาการดำเนินธุรกิจ ยอดการซื้อขายสินค้าร่วมกัน คุณภาพของสินค้าเป็นต้น

สำหรับข้อมูลระยะเวลาการให้ Credit Term ของบริษัทฯ ตามระยะเวลาเฉลี่ยที่เกิดขึ้นจริง มีรายละเอียด ดังนี้
รายการ256425652566
ระยะเวลาการให้สินเชื่อทางการค้า (AP Day)41 วัน38 วัน37 วัน
6. การพัฒนาคู่ค้า

         ตั้งแต่ปี 2553 ทางบริษัทฯ ได้นำระบบ VMI (Vendor Managed Inventory) ซึ่งเป็นระบบให้คู่ค้าบริหารจัดการสินค้าด้วยตนเอง มาใช้ร่วมกับคู่ค้าในการเพิ่มประสิทธิภาพการขายสินค้าของคู่ค้า โดยอาศัยการที่คู่ค้าเป็นผู้บริหารสินค้าคงคลังให้แก่ทางบริษัท หลักการสำคัญของการทำ VMI คือ การให้คู่ค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลยอดขายจริงของทางบริษัทและปริมาณสินค้าคงคลังเป็นรายสาขา ซึ่งจะทำให้คู่ค้าสามารถวางแผนการผลิตการจัดส่งสินค้าและการส่งเสริมการขายของทางคู่ค้าเองได้อย่างละเอียดแม่นยำและตรงต่อความต้องการในแต่ละพื้นที่ ซึ่งความต้องการอาจแตกต่างกันไปและให้อำนาจแก่คู่ค้าในการเป็นผู้ออกคำสั่งซื้อและดำเนินการเติมสินค้าให้แก่ทางบริษัท ทั้งนี้การทำ VMI จะช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าของคู่ค้าและเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานของทั้งคู่ค้าและทางบริษัท และยังคงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าปลายน้ำได้อย่างต่อเนื่อง

         นอกจากนี้ บริษัทจะนำผลการประเมินด้านความยั่งยืน (Suppliers- ESG Assessment) ของคู่ค้าแต่รายในอุตสาหกรรมเดียวกันมาทำการเปรียบเทียบ หากคู่ค้ารายใดมีผลการประเมินในแต่ละมิติต่ำกว่าเกณฑ์ จะต้องทำการปรับปรุงแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของคู่ค้า

7. การจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Procurement)

         บริษัทตระหนักดีว่าการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว (Green Procurement) เป็นกระบวนการหรือกิจกรรมอย่างหนึ่งของความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของบริษัท เนื่องจากการจัดซื้อเป็นกระบวนการสำคัญของทุกธุรกิจที่มีบทบาทอย่างมากในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ได้สนับสนุนการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว โดยมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการจัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือ ยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินกิจกรรมของบริษัท รวมถึงการสรรหาสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการบริโภคสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ผลการดำเนินงาน

 1. การจัดซื้ออุปกรณ์ เครื่องมือ ยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

  • การจัดซื้อรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forkif:) ให้กับสาขาที่เปิดใหม่ แทนรถโฟล์คลิฟท์ประเภทแก๊สและน้ำมัน และทดแทนรถโฟล์คลิฟท์ของสาขาเดิมที่ครบอายุการใช้งานแล้ว โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา โดยการทำงานของรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าจะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในต้านเสียง กลิ่น และมลพิษทางอากาศ
  • การจัดซื้อรถยกไฟฟ้า (Electric Stacker) เพื่อใช้โยกย้ายสินค้าภายในพื้นที่ขายปลีกของทุกสาขา
  • รถยนต์ระบบไฮบริด บริษัทมีนโยบายจัดชื้อรถยนต์ระบบไฮบริดสำหรับผู้บริหาร เนื่องจากเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐาน

2. การสรรหาสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดส้อม เพื่อสนับสนุนและตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยบริษัทได้จัดเป็นกลุ่มสินค้า ESG ซึ่งประกอบด้วยสินค้ากลุ่มประหยัดพลังงาน กลุ่มลดโลกร้อน กลุ่มประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ กลุ่มส่งเสริมสุขภาพ กลุ่มสินค้าเพื่อผู้สูงอายุและผู้พิการ และกลุ่มสินค้าเพื่อตอบสนองวิถีชีวิตใหม่

8. การอบรมพัฒนาศักยภาพของพนักงานจัดซื้อจัดหา (Company’s Buyers Officer Training)

         บริษัทฯ จัดให้มีการอบรมพัฒนาศักยภาพของพนักงานจัดซื้อจัดหาเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการทำงานของพนักงาน ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสื่อสารนโยบาย จรรยาบรรณและแนวทางปฏิบัติของคู่ค้า หลักเกณฑ์ปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และการประยุกต์ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินงานได้อย่างเป็นระบบ และเหมาะสม สามารถดำเนินกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างได้อย่างถูกต้อง รวดเร็วโดยใช้องค์ความรู้ และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

การสนับสนุนองค์กรภายนอกและสมาคมต่างๆ

หน่วย : บาท 

กิจกรรม/องค์กร2562256325642565
การวิ่งเต้นเพื่อเปลี่ยนแปลงหรือโน้มน้าวการตัดสินใจของรัฐบาล0.00.00.00.0
การรณรงค์หาเสียงทางการเมือง /สมาคม / ผู้สมัคร0.00.00.00.0
อื่นๆ เช่น การจ่ายเงินเกี่ยวกับมาตรการลงคะแนนเสียง หรือการลงประชามติ0.00.00.00.0

         ระหว่างปี 2562-2565 บริษัทฯมิได้ให้การสนับสนุนเพื่อชี้นำองค์กรใด หรือเป็นผู้แทนที่มีส่วนได้เสียทั้งในระดับท้องถิ่น ภูมิภาค หรือการรณรงค์หาเสียง/ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง การเมืองระดับชาติ และอื่นๆ (การใช้จ่ายเกี่ยวกับการลงคะแนนเสียง การลงประชามติ ฯลฯ) รวมถึงไม่ได้สนับสนุนสมาคมและองค์กรทางธุรกิจใดๆ

Scroll to Top